สวัสดีค่ะ. วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้กับตัวเอง จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่จบสิ้นแบบเด็ดขาด… เคยคิดว่าเป็นความรักวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กธรรมดาเหมือนที่ผ่านมา แต่สุดท้ายพอได้รุ้ความจริงเรื่อยๆก็ช็อคจนไม่รู้จะทำยังไง ทีแรกคิดอยู่นานว่าจะแชร์ดีมั้ย เพราะเชื่อว่าในเสียงวิพากวิจารณ์ต้องมีคนที่แอนตี้การกระทำของเราอยุ่บ้างแน่เลย แต่เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้กับใครหลายๆคน เราเลยเลือกที่จะออกมาเล่าค่ะ …
เราชื่อฟ้า เรื่องมีอยู่ว่าวันนึงที่เราไปเที่ยวกับเพื่อนที่ร้านเหล้าหลังมอที่ไปเป็นประจำ ร้านนี้ไม่ค่อยมีเด็กนักศึกษาหรือพวกเด็กนักเรียนม.ปลายหนีเที่ยวกลางคืนเท่าไหร่ เลยชอบไปค่ะ เพราะไม่มั่ว มีแต่ผู้ใหญ่ เป็นปกติค่ะที่เวลาไปร้านพวกนี้แล้วเราจะมีคนเข้ามาขอเบอร์ตลอด แต่เราก็จะให้เฟสไม่ก็ให้ไลน์ไปแทนพอตัดบท ไม่งั้นก็จะตื๊อไม่เลิกซะที แล้วพอเขาทักไลน์มาหลังกลับจากร้านเหล้าเราค่อยบล็อกหนีก็ได้ แต่ตอนนี้ให้ไปพลางๆก่อน วันนี้ก็เหมือนปกติที่มีคนเข้ามาขอเบอร์ แต่คราวนี้เขาบอกว่าขอไปให้เพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะ มันอายไม่กล้าขอเบอร์สาวเลยให้พี่เขามาขอแทน เราก็ให้ไลน์ไปตามปกติไม่ได้ใส่ใจอะไร จนกระทั่งกลับถึงคอนโดก็เจอพี่คนที่ว่าแอดไลน์มาหา พี่เขาชื่อพี่กล้า เข้าไปดูรูปโปรไฟล์ก็เป็นคนที่หน้าตาดี บุคลิกดูเป็นคุณชาย ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรเราก็เลยคุยด้วยต่อ แต่ก็ไม่ค่อยตอบอะไร เพราะปกติเราเป็นคนตอบไลน์ช้าอยู่แล้ว วันนึงจะเข้าไปตอบพี่แกแค่ตอนเช้าที่ตื่นมา(จับโทรศัพท์เป็นอันดับแรก)กับตอนจะนอน แค่นั้นแหละค่ะ แต่พี่กล้าก็ยังทักมาเรื่อยๆ ทั้งที่เราไม่ค่อยตอบ ทุกคืนจะแบบ… พรุ่งนี้ไปกินข้าวกันนะ ไปดุหนังกันนะ เรียนเสร็จกี่โมง พรุ่งนี้ว่างตอนไหน แบบนี้ทุกครั้ง เราก็อ่านไม่ตอบบ้าง บางทีใจดีหน่อยก็ตอบไปคนละเรื่องกับที่พี่แกถามเช่น จะนอนแล้วนะ ฝันดีค่ะ ทำนองนี้ แต่พี่กล้าก็ยังทักมาแบบเดิมตลอดเหมือนพยายามที่จะเจอเราให้ได้ พอนานเข้าผ่านไปเกือบสองอาทิตย์เราก็เลยเริ่มเห็นใจ แอบด่าตัวเองเหมือนกัน ไม่ได้สวยอะไรมากยังทำตัวหยิ่งอีก5555 แต่ก็ยังไม่ยอมเจอพี่แกเหมือนเดิม แค่ตอบบ่อยขึ้นจากแต่ก่อน เริ่มคุยเริ่มรู้จักกันมากขึ้น
จริงๆตอนนั้นเรามีคนที่เรามีแฟนอยู่แล้วนะ แต่ที่ไปเที่ยวละคุยกับคนอื่นเพราะจริงๆเราจับได้ว่าแฟนเรามีกิ๊ก บล็อกเฟซบุ๊คเราแล้วแอบตั้งคบกับคนนั้น แต่เรายังไม่อยากเสียเขาไป เรารับความจริงไม่ไหว ไม่กล้าถามไปตรงๆว่าเรารู้ความจริงอยู่แล้ว เพราะเรากลัวแฟนเราเลือกผู้หญิงคนนั้น ถึงเขาจะมาหาเราทุกวัน บอกรักเราตลอดเหมือนปกติ ทั้งที่พอเราแอบเอาเฟซคนอื่นไปส่องเฟซเขา ก็เห็นเช็คอินไปกินข้าวดูหนังกับผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน… เราทนมาเรื่อยๆจนเราเริ่มท้อ ช่วงนั้นคุยกับพี่กล้ามากขึ้น จนสุดท้ายก็ยอมให้เบอร์โทรกับพี่กล้าไป ปกติเราจะร้องไห้(เรื่องแฟนเรา)จนหลับไปทุกคืน แต่ตั้งแต่ให้เบอร์พี่กล้าไป เขาจะโทรมาหากล่อมเราจนหลับละค่อยวางสาย ตอนเช้าก็จะโทรมาปลุกตลอด ชอบเล่าเรื่องตลกๆทำให้เรายิ้มได้ตลอด จนเราเริ่มลืมความเจ็บปวดที่แฟนเรามันทำ พี่กล้าดูใส่ใจเรามาก จำเรื่องของเราได้หมดทุกอย่าง จดตารางเรียนเราไว้ด้วย ก่อนจะไปเรียนก็จะเช้คว่าเราลืมอะไรหรือเปล่า เรารู้สึกดีกับพี่กล้าจนในที่สุดก็ตกลงที่จะยอมนัดเจอกัน
เรานัดเจอกับพี่กล้าที่ร้านเหล้าครั้งแรกที่พี่เขาเจอเรา เพราะวันนั้นเรานัดจะไปกับเพื่อนอยู่แล้วเลยชวนพี่กล้ามาด้วย พี่กล้าตัวจริงน่ารักกก ดูดีกว่าในรูปมากๆ พี่เขามารับเราที่คอนโดละไปไล่รับเพื่อนเราที่หอด้วยจนครบทุกคน เพราะพี่กล้าไม่ไว้ในให้เราขับรถไปเอง(ตอนที่คุยโทรศัพท์กันเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าเราขับรถแย่แค่ไหน) พอมาถึงร้านเหล้าพี่กล้าก็เปิดโปรแบบเซตหรู ราคาเกินครึ่งหมื่นละเลี้ยงพวกเราทั้งโต๊ะ ดูใจดี สปอร์ท มากกก ที่เราประทับใจอีกอย่างคือพี่กล้าไม่ค่อยถึงเนื้อถึงตัว อย่างมากก็ลูบหัว ซึ่งเราไม่ชอบผู้ชายที่ถึงเนื้อถึงตัวอยู่แล้ว ดูแลเราดี เวลาเราจะไปเข้าห้องน้ำก็เดินพาไป เล่นมุขกับเพื่อนเรา เข้ากับเพื่อนเราได้หมด เฟรนด์ลี่มากๆ ไม่ทำตัวหึงหวงด้วย(อันนี้ก็เป็นอีกข้อนึงที่เราชอบ) คือเราไปร้านนี้บ่อยมากไง นักร้องอะไรรู้จักหมด เวลามีคนเข้ามาชน เข้ามาไฮไฟว์ พี่แกก็ยิ้มๆ ขำๆ ไม่ได้ว่าอะไร เรารู้สึกดีด้วยมากๆ จนพอร้านปิด พี่กล้าก็ไล่ส่งเพื่อนเราจนครบจนไปส่งเราที่คอนโด พี่กล้าถามเราว่ามีความสุขมั้ยที่เจอ เราก็บอกไปว่าเรามีความสุข พี่กล้าบอกว่าถ้ามีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ สัญญาว่าจะทำให้รู้สึกดีกว่านี้ไปเป็นสิบเท่า เขาจุ้บแก้มเราเบาๆบอกฝันดีแล้วไล่ลงรถให้ขึ้นไปนอน บอกตรงว่าฟินมากกกกกก! วันต่อมาเพื่อนในกลุ่มเรียกไปจับเข้าคุยเลยจ้า ให้เล่าเรื่องพี่กล้าให้ฟัง เราก็เล่าประวัติไปเท่าที่เรารู้ ว่าพี่แกเพิ่งเรียนจบป.โท เป็นเจ้าของโรงแรมxxx(ดังมากในจังหวัด) พอพี่แกเรียนจบแล้วมาทำงานที่นี่ พ่อพี่แกเลยไปดูแลสาขาจังหวัดอื่น อายุมากกว่าเราเจ็ดปี ก่อนหน้านี้มีแฟน แต่พอเรียนจบต้องย้ายมาต่างจังหวัดเลยเลิกกันไป เพิ่งมาอยู่นี่ได้สองเดือน ยังไม่ค่อยมีเพื่อนฝูงเท่าไหร่ เริ่มจีบเรามาได้เดือนกว่าๆแล้ว เพื่อนเราก็ว่าโอเคนะ แต่ทุกคนก็ยังสงสัยก็คือ… พี่แกอายุตั้งเท่านี้ เป็นวัยที่สมควรจะแต่งงานมีลูกได้แล้ว หน้าตาดี บ้านรวย นิสัยดี สปอร์ท เป็นไปได้เหรอที่ยังโสด แล้วเป็นไปได้เหรอที่จะคุยกับเราแค่คนเดียว? เราก็พยายามเถียงแทนพี่เขานะ ว่าก็พี่แกเพิ่งเลิกกับแฟน นี่ก็เพิ่งย้ายมาเลยยังไม่ค่อยรู้จักใคร คงไม่ได้คุยหลายคนหรอก เพราะขนาดมาขอเบอร์เรา ยังให้เพื่อนมาขอให้เลย เพื่อนเราก็ยอมให้คุยต่อไป แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ กลัวเราโดนหลอกเพราะที่เราโดนแฟนเราสวมเขาให้ตอนนี้ก็เจ็บมากพอแล้ว…
เราก็ยังคุยกับพี่กล้าต่อไป ยอมรับว่ายังไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยมากเท่าไหร่ เพราะจริงๆที่เราคุยกับพี่กล้าเพราะเราไม่อยากคิดถึงแฟนเก่าเรา เราไปไหนมาไหนด้วย ไปกินข้าวด้วยกันทุกเย็น ตอนเช้าพี่กล้ามารับไปเรียน ตอนเย็นก็มารอรับกลับ ไม่เคยต้องให้รอ เวลาพี่แกมีงานด่วนประชุมตอนเย็นก็จะไลน์หาเราตลอด บอกคิดถึง ห่างแป๊ปเดียวก็คิดถึง ตอนเย็นนะ… ไม่เคยห่างเราเกินสองชั่วโมงก็จะมาหาเราอีกละ พาไปนั่นไปนี่ พอตอนกลางคืนก็มาส่งที่คอนโด ช่วงสอบก็ไปนั่งเฝ้าเราอ่านหนังสือที่หอสมุด(คณะเรามีสอบทุกอาทิตย์) ดูแลเทคแคร์ดีทุกอย่าง จนกระทั่งวันนึงเรารู้สึกละอายใจ มีแฟนอยู่แล้วแต่มากิ๊กกับพี่กล้าก็ไม่ต่างอะไรกับที่แฟนสวมเขาให้เรา แล้วกับพี่กล้าก็เหมือนเป็นแค่ตัวคั่นเวลา เราเลยสารภาพกับพี่กล้าที่ร้านเหล้าพอเราเริ่มมึนๆหน่อย ว่าจริงๆถ้าเรามีแฟนอยู่แล้วพี่กล้าจะโกรธเรามั้ย ถ้าจริงๆที่ผ่านมาเกือบสามเดือนเราไม่ได้มีพี่กล้าแค่คนเดียว เราเอาพี่กล้ามาแทนที่อีกคนเฉยๆ ตอนพูดเราร้องไห้ด้วยนะ ถึงรู้ว่าจริงๆเราอึดอัดมากแค่ไหน พี่กล้าบอกว่า จริงๆก็พอจะรู้อยู่แล้ว แต่ที่มั่นใจแน่ๆก็คือเราไม่ได้มีพี่กล้าคนเดียวแน่ๆ เพราะเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันก็เจอคนทักเราตลอด (เวลาพวกที่ทักก็จะแซวประมาณว่า มากับใครน่ะ? วันนั้นไม่ใช่คนนี้หนิ แบบกวนๆไป) แล้วเวลาอยู่ร้านเหล้าก็เห็นมีคนเข้าหาเราตลอด เลยรู้ว่าไม่มีทางมีพี่กล้าคนเดียวแน่ๆ แต่พี่กล้าแค่อยากเป็นคนนึงในลิสท์เราแค่นั้นก็ดีใจมากแล้ว (ผ่างงง!!! ซึ้งมากเลยจ้า) จริงๆที่ไม่ได้แสดงอาการหึงหวงอะไรเวลามาร้านเหล้า เพราะกลัวเรารำคาญเพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน หรือต่อให้เราตกลงคบกับพี่กล้าไป แล้วเราขอมีคนอื่นหรือคุยกับคนอื่นพี่แกก็จะไม่ว่าอะไร เพราะแค่เราไม่ทิ้งพี่แกไปไหน พี่แกก็โอเคแล้ว เหมือนขอแค่มีเราอยู่ พี่แกก็ยอมหมด (ผ่างๆๆ!!! เจอคำพูดประมาณนี้ใครจะไม่ใจอ่อน จริงๆมันนานมากแล้วล่ะ แต่เรายังจำคำพูดพี่แกได้ขึ้นใจ) ตั้งแต่วันนั้นเราบอกเลิกกับแฟนเราที่ยืดเยื้อกันมานาน โดยไม่เสียใจอะไรเลย แล้วเริ่มเปิดใจคบหากับพี่กล้า ยอมให้พี่กล้าขึ้นมาเล่นบนคอนโด จนกลายเป็นแฟนกันเต็มตัวค่ะ ^_^
บอกเลยว่าตอนที่เราคบกับพี่กล้าเรามีความสุขมาก มากกว่าช่วงที่คุยกันซะอีก พี่กล้าดูแลเราดีเหมือนเดิม แต่มากกว่าเดิมตรงที่สวีทกันมากขึ้น เดินไปไหนจับมือกัน กอดแขนกัน เราพาพี่กล้าไปเจอเพื่อนเรา พาไปเตะบอลที่สนามหญ้าเทียมกับพี่ชายเรา (เพราะพี่แกยังไม่ค่อยมีเพื่อนฝูงนอกจากเพื่อนร่วมงาน) สร้างสังคมให้พี่กล้า พี่กล้าบอกว่ารู้สึกโชคดีมากที่เจอกับเรา เราก็รู้สึกโชคดีเหมือนกัน ปกติคบกับคนอายุมากกว่าอย่างมากก็ไม่เกินสามปี แต่นี่มากกว่าเราตั้งเจ็ดปี แล้วมีการมีงานมั่นคง รู้สึกสามารถอยู่กับคนนี้ไปได้ตลอดชีวิต ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนเพ้อฝันเริ่องความรัก คบใครก็ไม่เคยเกินห้าเดือน(แฟนคนก่อนหน้าพี่กล้าคือคบนานสุดแล้ว)เพราะเป็นคนขี้เบื่อ ไม่ก็เจอคนเจ้าชู้ตลอด แต่พี่กล้าไม่เคยทำให้เรารู้สึกเบื่อหรือว่าทำตัวเหมือนมีคนอื่นเลย เพราะตัวติดกันมาก หลังๆเริ่มย้ายมาอยู่ด้วยกัน ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าพี่แกมีเราแค่คนเดียว ชีวิตเรามีสีสันมาก เราคบกับพี่กล้ามาจนถึงสามเดือน ถ้ารวมตอนที่คุยกันคือรุ้จักคนนี้มาครึ่งปีแล้ว เป็นเวลาที่นานมากสำหรับเรา เพราะอยู่ด้วยกันตลอด และความดีของพี่กล้าเลยทำให้เรารู้สึกรักผู้ชายคนนี้แบบบอกไม่ถูก จนถึงวันที่เราปิดเทอม เราเลยตกลงไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน พี่กล้าออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ทีแรกบอกให้เราไปแต่ตัว เดี๋ยวค่อยไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ที่นั่นด้วยซ้ำ แต่ถึงเป็นแฟนกันเราก็ยังเกรงใจอยู่ดี เวลาไปกินข้าวด้วยกันถ้ามื้อไม่ใหญ่มากเราก็จะรีบวิ่งไปแอบคิดเงินเลย เพราะถ้าอยู่ต่อหน้าพี่กล้า พี่แกจะไม่มีทางให้เราออกเงินเลยซักบาท ซึ่งนานเข้าเราก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่เพราะความป๋าเกินไป เราขึ้นเครื่องไปเที่ยวเกาะกัน แล้วพี่แกก็เช่ารถที่นั่น จนกระทั่งวันนึงที่เกาะระหว่างที่เรากำลังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ พี่กล้าก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะ เราก็แอบแปลกใจเพราะว่าปกติพี่กล้าจะติดโทรศัพท์ตลอด เพราะพี่แกบอกต้องเช็คหุ้น ละตรวจดูกล้องวงจรปิดที่ออฟฟิศ เรียกได้ว่าจับโทรศัพท์เกือบตลอดเวลา เราก็เลยไม่ค่อยกล้ายุ่งกับโทรศัพท์พี่กล้า เรียกได้ว่าไม่เคยจับเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะการลืมในครั้งนี้ของพี่กล้านั่นแหละ ที่ทำให้ความจริงเริ่มเปิดเผย เมื่อมีเบอร์โทรเข้ามาขณะที่เรากำลังนั่งมองโทรศัพท์พี่แกอยู่คนเดียว… เบอร์นั้นเม็มว่า “ภรรยาสุดที่รัก”
(เดี๋ยวมาต่อ)
แฟนที่คบด้วย.. จริงๆแต่งงานแล้ว โดนภรรยาระราน
เราชื่อฟ้า เรื่องมีอยู่ว่าวันนึงที่เราไปเที่ยวกับเพื่อนที่ร้านเหล้าหลังมอที่ไปเป็นประจำ ร้านนี้ไม่ค่อยมีเด็กนักศึกษาหรือพวกเด็กนักเรียนม.ปลายหนีเที่ยวกลางคืนเท่าไหร่ เลยชอบไปค่ะ เพราะไม่มั่ว มีแต่ผู้ใหญ่ เป็นปกติค่ะที่เวลาไปร้านพวกนี้แล้วเราจะมีคนเข้ามาขอเบอร์ตลอด แต่เราก็จะให้เฟสไม่ก็ให้ไลน์ไปแทนพอตัดบท ไม่งั้นก็จะตื๊อไม่เลิกซะที แล้วพอเขาทักไลน์มาหลังกลับจากร้านเหล้าเราค่อยบล็อกหนีก็ได้ แต่ตอนนี้ให้ไปพลางๆก่อน วันนี้ก็เหมือนปกติที่มีคนเข้ามาขอเบอร์ แต่คราวนี้เขาบอกว่าขอไปให้เพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะ มันอายไม่กล้าขอเบอร์สาวเลยให้พี่เขามาขอแทน เราก็ให้ไลน์ไปตามปกติไม่ได้ใส่ใจอะไร จนกระทั่งกลับถึงคอนโดก็เจอพี่คนที่ว่าแอดไลน์มาหา พี่เขาชื่อพี่กล้า เข้าไปดูรูปโปรไฟล์ก็เป็นคนที่หน้าตาดี บุคลิกดูเป็นคุณชาย ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรเราก็เลยคุยด้วยต่อ แต่ก็ไม่ค่อยตอบอะไร เพราะปกติเราเป็นคนตอบไลน์ช้าอยู่แล้ว วันนึงจะเข้าไปตอบพี่แกแค่ตอนเช้าที่ตื่นมา(จับโทรศัพท์เป็นอันดับแรก)กับตอนจะนอน แค่นั้นแหละค่ะ แต่พี่กล้าก็ยังทักมาเรื่อยๆ ทั้งที่เราไม่ค่อยตอบ ทุกคืนจะแบบ… พรุ่งนี้ไปกินข้าวกันนะ ไปดุหนังกันนะ เรียนเสร็จกี่โมง พรุ่งนี้ว่างตอนไหน แบบนี้ทุกครั้ง เราก็อ่านไม่ตอบบ้าง บางทีใจดีหน่อยก็ตอบไปคนละเรื่องกับที่พี่แกถามเช่น จะนอนแล้วนะ ฝันดีค่ะ ทำนองนี้ แต่พี่กล้าก็ยังทักมาแบบเดิมตลอดเหมือนพยายามที่จะเจอเราให้ได้ พอนานเข้าผ่านไปเกือบสองอาทิตย์เราก็เลยเริ่มเห็นใจ แอบด่าตัวเองเหมือนกัน ไม่ได้สวยอะไรมากยังทำตัวหยิ่งอีก5555 แต่ก็ยังไม่ยอมเจอพี่แกเหมือนเดิม แค่ตอบบ่อยขึ้นจากแต่ก่อน เริ่มคุยเริ่มรู้จักกันมากขึ้น
จริงๆตอนนั้นเรามีคนที่เรามีแฟนอยู่แล้วนะ แต่ที่ไปเที่ยวละคุยกับคนอื่นเพราะจริงๆเราจับได้ว่าแฟนเรามีกิ๊ก บล็อกเฟซบุ๊คเราแล้วแอบตั้งคบกับคนนั้น แต่เรายังไม่อยากเสียเขาไป เรารับความจริงไม่ไหว ไม่กล้าถามไปตรงๆว่าเรารู้ความจริงอยู่แล้ว เพราะเรากลัวแฟนเราเลือกผู้หญิงคนนั้น ถึงเขาจะมาหาเราทุกวัน บอกรักเราตลอดเหมือนปกติ ทั้งที่พอเราแอบเอาเฟซคนอื่นไปส่องเฟซเขา ก็เห็นเช็คอินไปกินข้าวดูหนังกับผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน… เราทนมาเรื่อยๆจนเราเริ่มท้อ ช่วงนั้นคุยกับพี่กล้ามากขึ้น จนสุดท้ายก็ยอมให้เบอร์โทรกับพี่กล้าไป ปกติเราจะร้องไห้(เรื่องแฟนเรา)จนหลับไปทุกคืน แต่ตั้งแต่ให้เบอร์พี่กล้าไป เขาจะโทรมาหากล่อมเราจนหลับละค่อยวางสาย ตอนเช้าก็จะโทรมาปลุกตลอด ชอบเล่าเรื่องตลกๆทำให้เรายิ้มได้ตลอด จนเราเริ่มลืมความเจ็บปวดที่แฟนเรามันทำ พี่กล้าดูใส่ใจเรามาก จำเรื่องของเราได้หมดทุกอย่าง จดตารางเรียนเราไว้ด้วย ก่อนจะไปเรียนก็จะเช้คว่าเราลืมอะไรหรือเปล่า เรารู้สึกดีกับพี่กล้าจนในที่สุดก็ตกลงที่จะยอมนัดเจอกัน
เรานัดเจอกับพี่กล้าที่ร้านเหล้าครั้งแรกที่พี่เขาเจอเรา เพราะวันนั้นเรานัดจะไปกับเพื่อนอยู่แล้วเลยชวนพี่กล้ามาด้วย พี่กล้าตัวจริงน่ารักกก ดูดีกว่าในรูปมากๆ พี่เขามารับเราที่คอนโดละไปไล่รับเพื่อนเราที่หอด้วยจนครบทุกคน เพราะพี่กล้าไม่ไว้ในให้เราขับรถไปเอง(ตอนที่คุยโทรศัพท์กันเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าเราขับรถแย่แค่ไหน) พอมาถึงร้านเหล้าพี่กล้าก็เปิดโปรแบบเซตหรู ราคาเกินครึ่งหมื่นละเลี้ยงพวกเราทั้งโต๊ะ ดูใจดี สปอร์ท มากกก ที่เราประทับใจอีกอย่างคือพี่กล้าไม่ค่อยถึงเนื้อถึงตัว อย่างมากก็ลูบหัว ซึ่งเราไม่ชอบผู้ชายที่ถึงเนื้อถึงตัวอยู่แล้ว ดูแลเราดี เวลาเราจะไปเข้าห้องน้ำก็เดินพาไป เล่นมุขกับเพื่อนเรา เข้ากับเพื่อนเราได้หมด เฟรนด์ลี่มากๆ ไม่ทำตัวหึงหวงด้วย(อันนี้ก็เป็นอีกข้อนึงที่เราชอบ) คือเราไปร้านนี้บ่อยมากไง นักร้องอะไรรู้จักหมด เวลามีคนเข้ามาชน เข้ามาไฮไฟว์ พี่แกก็ยิ้มๆ ขำๆ ไม่ได้ว่าอะไร เรารู้สึกดีด้วยมากๆ จนพอร้านปิด พี่กล้าก็ไล่ส่งเพื่อนเราจนครบจนไปส่งเราที่คอนโด พี่กล้าถามเราว่ามีความสุขมั้ยที่เจอ เราก็บอกไปว่าเรามีความสุข พี่กล้าบอกว่าถ้ามีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ สัญญาว่าจะทำให้รู้สึกดีกว่านี้ไปเป็นสิบเท่า เขาจุ้บแก้มเราเบาๆบอกฝันดีแล้วไล่ลงรถให้ขึ้นไปนอน บอกตรงว่าฟินมากกกกกก! วันต่อมาเพื่อนในกลุ่มเรียกไปจับเข้าคุยเลยจ้า ให้เล่าเรื่องพี่กล้าให้ฟัง เราก็เล่าประวัติไปเท่าที่เรารู้ ว่าพี่แกเพิ่งเรียนจบป.โท เป็นเจ้าของโรงแรมxxx(ดังมากในจังหวัด) พอพี่แกเรียนจบแล้วมาทำงานที่นี่ พ่อพี่แกเลยไปดูแลสาขาจังหวัดอื่น อายุมากกว่าเราเจ็ดปี ก่อนหน้านี้มีแฟน แต่พอเรียนจบต้องย้ายมาต่างจังหวัดเลยเลิกกันไป เพิ่งมาอยู่นี่ได้สองเดือน ยังไม่ค่อยมีเพื่อนฝูงเท่าไหร่ เริ่มจีบเรามาได้เดือนกว่าๆแล้ว เพื่อนเราก็ว่าโอเคนะ แต่ทุกคนก็ยังสงสัยก็คือ… พี่แกอายุตั้งเท่านี้ เป็นวัยที่สมควรจะแต่งงานมีลูกได้แล้ว หน้าตาดี บ้านรวย นิสัยดี สปอร์ท เป็นไปได้เหรอที่ยังโสด แล้วเป็นไปได้เหรอที่จะคุยกับเราแค่คนเดียว? เราก็พยายามเถียงแทนพี่เขานะ ว่าก็พี่แกเพิ่งเลิกกับแฟน นี่ก็เพิ่งย้ายมาเลยยังไม่ค่อยรู้จักใคร คงไม่ได้คุยหลายคนหรอก เพราะขนาดมาขอเบอร์เรา ยังให้เพื่อนมาขอให้เลย เพื่อนเราก็ยอมให้คุยต่อไป แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ กลัวเราโดนหลอกเพราะที่เราโดนแฟนเราสวมเขาให้ตอนนี้ก็เจ็บมากพอแล้ว…
เราก็ยังคุยกับพี่กล้าต่อไป ยอมรับว่ายังไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยมากเท่าไหร่ เพราะจริงๆที่เราคุยกับพี่กล้าเพราะเราไม่อยากคิดถึงแฟนเก่าเรา เราไปไหนมาไหนด้วย ไปกินข้าวด้วยกันทุกเย็น ตอนเช้าพี่กล้ามารับไปเรียน ตอนเย็นก็มารอรับกลับ ไม่เคยต้องให้รอ เวลาพี่แกมีงานด่วนประชุมตอนเย็นก็จะไลน์หาเราตลอด บอกคิดถึง ห่างแป๊ปเดียวก็คิดถึง ตอนเย็นนะ… ไม่เคยห่างเราเกินสองชั่วโมงก็จะมาหาเราอีกละ พาไปนั่นไปนี่ พอตอนกลางคืนก็มาส่งที่คอนโด ช่วงสอบก็ไปนั่งเฝ้าเราอ่านหนังสือที่หอสมุด(คณะเรามีสอบทุกอาทิตย์) ดูแลเทคแคร์ดีทุกอย่าง จนกระทั่งวันนึงเรารู้สึกละอายใจ มีแฟนอยู่แล้วแต่มากิ๊กกับพี่กล้าก็ไม่ต่างอะไรกับที่แฟนสวมเขาให้เรา แล้วกับพี่กล้าก็เหมือนเป็นแค่ตัวคั่นเวลา เราเลยสารภาพกับพี่กล้าที่ร้านเหล้าพอเราเริ่มมึนๆหน่อย ว่าจริงๆถ้าเรามีแฟนอยู่แล้วพี่กล้าจะโกรธเรามั้ย ถ้าจริงๆที่ผ่านมาเกือบสามเดือนเราไม่ได้มีพี่กล้าแค่คนเดียว เราเอาพี่กล้ามาแทนที่อีกคนเฉยๆ ตอนพูดเราร้องไห้ด้วยนะ ถึงรู้ว่าจริงๆเราอึดอัดมากแค่ไหน พี่กล้าบอกว่า จริงๆก็พอจะรู้อยู่แล้ว แต่ที่มั่นใจแน่ๆก็คือเราไม่ได้มีพี่กล้าคนเดียวแน่ๆ เพราะเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันก็เจอคนทักเราตลอด (เวลาพวกที่ทักก็จะแซวประมาณว่า มากับใครน่ะ? วันนั้นไม่ใช่คนนี้หนิ แบบกวนๆไป) แล้วเวลาอยู่ร้านเหล้าก็เห็นมีคนเข้าหาเราตลอด เลยรู้ว่าไม่มีทางมีพี่กล้าคนเดียวแน่ๆ แต่พี่กล้าแค่อยากเป็นคนนึงในลิสท์เราแค่นั้นก็ดีใจมากแล้ว (ผ่างงง!!! ซึ้งมากเลยจ้า) จริงๆที่ไม่ได้แสดงอาการหึงหวงอะไรเวลามาร้านเหล้า เพราะกลัวเรารำคาญเพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน หรือต่อให้เราตกลงคบกับพี่กล้าไป แล้วเราขอมีคนอื่นหรือคุยกับคนอื่นพี่แกก็จะไม่ว่าอะไร เพราะแค่เราไม่ทิ้งพี่แกไปไหน พี่แกก็โอเคแล้ว เหมือนขอแค่มีเราอยู่ พี่แกก็ยอมหมด (ผ่างๆๆ!!! เจอคำพูดประมาณนี้ใครจะไม่ใจอ่อน จริงๆมันนานมากแล้วล่ะ แต่เรายังจำคำพูดพี่แกได้ขึ้นใจ) ตั้งแต่วันนั้นเราบอกเลิกกับแฟนเราที่ยืดเยื้อกันมานาน โดยไม่เสียใจอะไรเลย แล้วเริ่มเปิดใจคบหากับพี่กล้า ยอมให้พี่กล้าขึ้นมาเล่นบนคอนโด จนกลายเป็นแฟนกันเต็มตัวค่ะ ^_^
บอกเลยว่าตอนที่เราคบกับพี่กล้าเรามีความสุขมาก มากกว่าช่วงที่คุยกันซะอีก พี่กล้าดูแลเราดีเหมือนเดิม แต่มากกว่าเดิมตรงที่สวีทกันมากขึ้น เดินไปไหนจับมือกัน กอดแขนกัน เราพาพี่กล้าไปเจอเพื่อนเรา พาไปเตะบอลที่สนามหญ้าเทียมกับพี่ชายเรา (เพราะพี่แกยังไม่ค่อยมีเพื่อนฝูงนอกจากเพื่อนร่วมงาน) สร้างสังคมให้พี่กล้า พี่กล้าบอกว่ารู้สึกโชคดีมากที่เจอกับเรา เราก็รู้สึกโชคดีเหมือนกัน ปกติคบกับคนอายุมากกว่าอย่างมากก็ไม่เกินสามปี แต่นี่มากกว่าเราตั้งเจ็ดปี แล้วมีการมีงานมั่นคง รู้สึกสามารถอยู่กับคนนี้ไปได้ตลอดชีวิต ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนเพ้อฝันเริ่องความรัก คบใครก็ไม่เคยเกินห้าเดือน(แฟนคนก่อนหน้าพี่กล้าคือคบนานสุดแล้ว)เพราะเป็นคนขี้เบื่อ ไม่ก็เจอคนเจ้าชู้ตลอด แต่พี่กล้าไม่เคยทำให้เรารู้สึกเบื่อหรือว่าทำตัวเหมือนมีคนอื่นเลย เพราะตัวติดกันมาก หลังๆเริ่มย้ายมาอยู่ด้วยกัน ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าพี่แกมีเราแค่คนเดียว ชีวิตเรามีสีสันมาก เราคบกับพี่กล้ามาจนถึงสามเดือน ถ้ารวมตอนที่คุยกันคือรุ้จักคนนี้มาครึ่งปีแล้ว เป็นเวลาที่นานมากสำหรับเรา เพราะอยู่ด้วยกันตลอด และความดีของพี่กล้าเลยทำให้เรารู้สึกรักผู้ชายคนนี้แบบบอกไม่ถูก จนถึงวันที่เราปิดเทอม เราเลยตกลงไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน พี่กล้าออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ทีแรกบอกให้เราไปแต่ตัว เดี๋ยวค่อยไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ที่นั่นด้วยซ้ำ แต่ถึงเป็นแฟนกันเราก็ยังเกรงใจอยู่ดี เวลาไปกินข้าวด้วยกันถ้ามื้อไม่ใหญ่มากเราก็จะรีบวิ่งไปแอบคิดเงินเลย เพราะถ้าอยู่ต่อหน้าพี่กล้า พี่แกจะไม่มีทางให้เราออกเงินเลยซักบาท ซึ่งนานเข้าเราก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่เพราะความป๋าเกินไป เราขึ้นเครื่องไปเที่ยวเกาะกัน แล้วพี่แกก็เช่ารถที่นั่น จนกระทั่งวันนึงที่เกาะระหว่างที่เรากำลังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ พี่กล้าก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะ เราก็แอบแปลกใจเพราะว่าปกติพี่กล้าจะติดโทรศัพท์ตลอด เพราะพี่แกบอกต้องเช็คหุ้น ละตรวจดูกล้องวงจรปิดที่ออฟฟิศ เรียกได้ว่าจับโทรศัพท์เกือบตลอดเวลา เราก็เลยไม่ค่อยกล้ายุ่งกับโทรศัพท์พี่กล้า เรียกได้ว่าไม่เคยจับเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะการลืมในครั้งนี้ของพี่กล้านั่นแหละ ที่ทำให้ความจริงเริ่มเปิดเผย เมื่อมีเบอร์โทรเข้ามาขณะที่เรากำลังนั่งมองโทรศัพท์พี่แกอยู่คนเดียว… เบอร์นั้นเม็มว่า “ภรรยาสุดที่รัก”
(เดี๋ยวมาต่อ)